4 วิธีที่จะช่วยคุณประหยัดงบโฆษณาบน Facebook
การทำการตลาดด้วยการโฆษณา Facebook ย่อมมีต้นทุนในการใช้พื้นที่เพื่อเป็นสื่อในการโฆษณา ซึ่งงบประมาณในแต่ละครั้งเราไม่อาจประเมินค่าได้แบบตายตัวเลยซะทีเดียว เพราะการลงโฆษณา Facebook มีปัจจัยหลายอย่างประกอบรวมกัน เช่น เนื้อหาของบทความ วัตถุประสงค์ในการทำโฆษณา Facebook เป็นต้น แต่สิ่งที่เราสามารถจะพอทำได้ก็คือ การสังเกต หรือใช้วิธีพลิกแพลงจากประสบการณ์ ในการทำโฆษณา Facebook ด้วยงบประมาณที่เราสามารถพอคาดเดาได้
วันนี้เราจะมาดูกันว่ามีวิธีแบบไหนบ้าง ที่จะพอพลิกแพลงช่วยให้การลงโฆษณา Facebookประหยัดมากยิ่งขึ้น
-
เราควรเลือกให้โฆษณาไปลงทุก Placement
แล้วรอการทำงานของมันสักครู่ เพื่อรอดูResultว่าโฆษณาถูกเข้าถึงผ่านช่องทางใดมากที่สุด การทำแบบนี้ก็จะทำให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และตัด Placement ที่ได้ผลลัพธ์น้อยออกไปได้
-
การใช้ Bid Strategy ร่วมกับ Target Cost
จะช่วยทำให้เข้าถึงเป้าหมายและประหยัดต้นทุนต่อโฆษณาได้มากขึ้น เพราะการลงโฆษณา Facebook จะมีวิธี Bid ให้เลือกถึง 4 แบบ แต่ละแบบจะมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นควรเลือกใช้วิธีให้เหมาะสมเพื่อคุณภาพสูงสุดของโฆษณา Facebook ในราคาที่คุ้มและ ไม่ตัดโอกาสการเข้าถึงหรือมองเห็นของกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย
-
วางแผน Ads Schedule ให้ดี
ตั้งค่าให้โฆษณา Facebook ของเราแสดงในช่วงเวลาที่เหมาะสมจะทำให้มีผลลัพธ์ที่ดีกว่าปกติและทำให้โฆษณาเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การตั้งเวลานั้นนอกจากจะช่วยให้ประหยัดต้นทุนที่ไม่ต้องโฆษณาเกินระยะเวลาที่กำหนดแล้วยังส่งผลให้เข้าถึงเป้าหมายได้มากที่สุดอีกด้วย เพราะบนแพลทฟอร์มออนไลน์ก็มีช่วง peak time ที่มีจำนวนคนใช้งานมากที่สุด เช่น เวลาพักกลางวัน ก่อนนอน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายของผู้ลงโฆษณา Facebook ว่าส่วนใหญ่แล้วมักเข้าใช้งานเวลาใด
-
การเลือก Audience
ที่จะแสดงโฆษณา Facebook ให้คนเห็นก็มีผลอย่างมากเช่นกัน หากคุณไม่ได้ตั้งค่า Audience ที่จะแสดงผลไว้ โฆษณาก็ย่อมไปไม่ถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณ เช่น ช่วงอายุ เพศ ความสนใจ หรือแม้กระทั่งภาษาของกลุ่มลูกค้า ยิ่งคุณตั้งค่าได้ใกล้เคียงกลุ่มเป้าหมายเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้โฆษณา Facebookของคุณแม่นยำมากขึ้นเท่านั้น แต่ก็มีจุดที่ควรระวังเพราะถ้าหากเราตั้งละเอียดเกินไปจนเข้าถึงแต่กลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่มเดียวก็อาจจะทำให้ Potential reach ลดน้อยลงได้ และจะทำให้ Ads frequency พุ่งสูงขึ้น จนลูกค้ารำคาญและปิดการรับรู้โฆษณา Facebook จากคุณ เพราะฉะนั้นเราควรปรับตัวเลือกของ Audience ให้เหมาะสม
หากรู้แบบนี้แล้วก็ลองสังเกตก่อนลงโฆษณา Facebook ดูว่ามีจุดไหนบ้าง ที่จะพอปรับเปลี่ยนได้ เพื่อให้โฆษณา Facebookของเราใช้งบประมาณน้อยที่สุด แต่มีประสิทธิภาพสูงสุด
การสื่อสารทางการตลาดนั้น ทุกๆ การสื่อสารนั้นย่อมต้องมีวัตถุประสงค์ว่าจะสื่อสารอะไรกับใคร ทำให้สินค้าที่มีกลุ่มเป้าหมายหรือผู้ใช้ที่กว้างมากนั้น การสร้าง Message ที่ตรงกับความต้องการหรือ insight ที่กลุ่มเป้าหมายนั้นคิดนั้นจึงเป็นสิ่งที่ทำเป็นประจำ ยิ่งเป็นแบรนด์ที่มีสินค้าหลากหลาย สินค้าแต่ละแบบก็มีกลุ่มผู้ใช้ที่แตกต่างกัน การนำเสนอสินค้านั้นเราจึงไม่อยากพูดให้คนทุกคนที่เข้ามาซื้อของกับแบรนด์นั้นรับรู้สินค้าที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองมากเท่าไหร่ การสร้างการสื่อสารทางการตลาดที่แตกไปตามกลุ่มความสนใจหรือเลือกสื่อที่ตรงกับความสนใจของแต่ละกลุ่มนั้นจึงเป็นสิ่งที่ Traditional Media นั้นทำมานาน แต่ในทาง Social ละ ถ้าเราไม่ได้ซื้อ Ads เพื่อ Target คน จะทำยังไงให้โพสของเราเห็นเฉพาะกลุ่มที่เราต้องการเท่านั้น นี้คือที่มาของการทำ Dark Post ในโลกของการทำ Digital